Business Movement

B2S เป่าเทียนครบรอบ 24 ปีที่ ‘โต มา ด้วย กัน’ กับคนไทยและก้าวต่อไปสู่ ‘Passion Store’ พื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์

อาจพูดได้ว่า B2S (บีทูเอส) ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล คือร้านจำหน่ายหนังสือและเครื่องเขียนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสินค้าที่ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าในทุกช่วงอายุ จึงเป็นมากกว่าร้านหนังสือแต่เป็นแหล่งรวมความสุข พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจและการเรียนรู้ที่เติบโตเคียงข้างคนไทยมาโดยตลอด

เนื่องในโอกาสครบรอบ 24 ปี จิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจ บีทูเอสและออฟฟิศเมท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดโอกาสให้ The Standard ได้พูดคุยเจาะลึกในหลายแง่มุม ตั้งแต่แนวคิดการทำธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับลูกค้าทุกช่วงวัย บทเรียนที่ได้ในช่วงวิกฤต กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจใน B2S Club ที่หลายคนไม่เคยรู้ ไปจนถึงเป้าหมายต่อไปในขวบปีที่ 25 ที่จิตรลดาบอกว่า “เรามุ่งที่จะ ‘ส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์’ (Inspire Learning & Creativity) เพื่อขับเคลื่อนบีทูเอสจากร้านหนังสือและเครื่องเขียน สู่ ‘Passion Store’ พื้นที่สร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการช้อปปิ้ง แต่จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านต่างๆ ให้กับลูกค้า ไปพร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอด Passion ที่ต่างกัน”

“ตลอด 24 ปี เราไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาเพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้า ไม่แต่เฉพาะการคัดสรรหนังสือแต่ยังมีสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ถ้ายังจำกันได้ ยุคแรกเราเป็นร้านที่มีมุมขายซีดีและให้ลองฟัง มี Talking Dict จำหน่าย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่เราปรับตัวไปพร้อมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้บีทูเอสเติบโตไปด้วยกันกับพวกเขา”

ข้อได้เปรียบของการดูแลลูกค้าที่มีความหลากหลาย ทำให้บีทูเอสต้องเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา “การที่เราสามารถคัดสรรสินค้าที่ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าในทุกช่วงอายุได้นั้น เกิดจากการเรียนรู้ลูกค้าในทุกด้าน ต้องชำนาญในหลายเรื่อง และต้องศึกษาทุกตลาด”

จิตรลดา บอกว่าในอดีตการทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าดูได้จากพฤติกรรมการซื้อ การแสดงความคิดเห็น กิจกรรมการตลาด แต่ปัจจุบันมีการนำ Customer Insight จาก The1 ซึ่งเป็น Loyalty Program ของเซ็นทรัลกรุ๊ป รวมถึง Social Listening มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลและหาแนวทางปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า

“การมี Loyalty Platform ที่แข็งแกร่งอย่าง ‘The1’ ช่วยให้บีทูเอสมีระบบฐานข้อมูลลูกค้าที่ดี ปลอดภัย ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้า The1 ที่ช้อปสินค้าที่ B2S มากกว่า 3,800,000 ราย และในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตของสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 13 % โดยพบว่าลูกค้าที่เป็นสมาชิกมียอดเฉลี่ยการใช้จ่ายที่บีทูเอส สูงกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 66% ที่สำคัญคือช่วยให้เข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ว่าลูกค้าเราชอบอะไร ซื้ออะไร หรือเขาอยู่ใน Stage of life ไหน เช่น มีลูกอายุเท่าไรก็ดูได้จากหนังสือที่ซื้อ หรือกิจกรรมที่เข้าร่วม ทำให้เราสามารถมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ ตอบโจทย์”

แต่ความท้าทายคือ ทำอย่างไรถึงจะตอบโจทย์ลูกค้าทุกเจเนอเรชันที่มีความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างได้

“อย่างการสร้างความสุขให้กับนักอ่านที่มีความชอบต่างกัน หรือคนต่างวัยก็มีความสนใจที่ไม่เหมือนกัน พอเราปักธงว่าจะทำให้บีทูเอสเป็น Learning Destination, Kids Destination และ Art Destination มีสินค้าหลากหลาย ครบครัน ทันสมัย สิ่งที่ตามมาคือเราต้องให้ความสำคัญกับการคัดสรรสินค้ามากขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้านักเรียน นักศึกษา เราจะคัดหนังสือเตรียมสอบที่จะช่วยให้เขาเดินทางไปถึงจุดหมายในทุกสเต็ปการเรียน หรือมุมหนังสือสำหรับเด็กเราพาร์ทเนอร์กับ ASIA BOOKS ตอบโจทย์เด็กอินเตอร์และเด็กที่เรียนสองภาษา บางช่วงเราจัดมุมตามธีม เช่น วันฮาโลวีน วันวาเลนไทน์ หรือหนังสือฮีลใจ”

ความแตกต่างของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ทำให้กว่า 130 สาขาทั่วประเทศ จะต้องมีการคัดสรรหนังสือและสินค้าที่ต่างกัน “บางสาขาจะมีหนังสือเรียนจำหน่ายมากหน่อย บางสาขาเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพ บางสาขานิยายจะทำยอดขายได้ดี และถ้าพื้นที่ไหนมีชาวต่างชาติอยู่เยอะก็จะเน้นขายหนังสือภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกันก็มี E-reader จำหน่ายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่ม”

และบีทูเอสไม่ได้เป็นเพียงร้านหนังสือแต่มีสินค้าอื่นๆ จำหน่าย เป็นที่มาของการปรับโครงสร้างโซนต่างๆ ในรูปแบบ Shop in Shop ให้มีความไดนามิกมากขึ้น และยังสอดคล้องไปกับทิศทางการปรับตัวในปีที่ 25 สู่การเป็นแหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน (Center of Passion Community, Center of Happiness)

“เราพัฒนารูปแบบร้านบีทูเอสด้วยกลยุทธ์ Shop in Shop จับมือกับแบรนด์ชั้นนำมาช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้า นำเสนอสินค้าที่ครบครัน สร้างประสบการณ์ที่ดี ซึ่งการเลือกพาร์ทเนอร์เราดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก อย่าง ASIA BOOKS จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์เทรนด์การอ่านหนังสือต่างประเทศ หรือ YAAKZ!!! SHOP ทำให้เรากลายเป็นแหล่งรวมการ์ตูนออกใหม่ที่วางจำหน่ายเร็วที่สุด หรือ ErgoTrend ร้านเฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพที่มีสินค้าตอบโจทย์วัยเรียนและวัยทำงาน”

นอกจากนี้ยังมี Board Game Café ศูนย์รวมคนเล่นบอร์ดเกมและรวมบอร์ดเกมจากทุกมุมโลก, Pokémon PLAYLAB แห่งแรกในไทยที่รวมสินค้าคอลเลคชั่นโปเกมอนสุดพรีเมียมให้เลือกช้อปก่อนใคร, Bigknit's Community พื้นที่รวมตัวสำหรับคนรักงานถักที่มาพร้อมเวิร์กช้อปดีๆ และอุปกรณ์มากมาย รวมไปถึงช้อปสำหรับคนรักศิลปะอื่นๆ อย่าง HHK shop, DG Art shop และ Caran d'ache corner

“ปัจจุบันเราพยายามจะมีให้ครบทุก Category ในเกือบทุกสาขา เพียงแต่พื้นที่ที่ต่างกันทำให้สัดส่วนของสินค้าที่วางจำหน่ายต่างกัน การเลือกว่าสาขาไหนจะออกแบบ Shop in Shop ในรูปแบบไหน มีโซนอะไรบ้าง เรายึด Customer Centric เป็นโจทย์หลัก โดยใช้ Customer Insight จาก The 1 และ Data ที่ได้จากเจ้าของพื้นที่ว่าพื้นที่โดยรอบกลุ่มลูกค้าเป็นใคร ช่วงอายุเท่าไร แล้วจึงนำ Data มาประมวลว่าโซนนั้นมีลูกค้ากลุ่มไหนบ้างและสัดส่วนเท่าไรเพื่อคัดสรรสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สุด หลังจากวางสินค้าแล้วเรายังดู Data จาก The 1 ต่อด้วยว่า ลูกค้าที่มาซื้อคือใคร สินค้าอะไรขายดี เพื่อหาโมเดลว่าลูกค้าประมาณนี้ สินค้าแบบไหนตอบโจทย์”

โดยบีทูเอสเพิ่งปรับโฉมสาขาเมกา บางนา ให้เป็น Passion Store ที่มีสินค้าหลากหลาย ครบครัน ทันสมัย และมีแผนจะปรับโฉมสาขาอื่นๆ เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลพระราม 9 เซ็นทรัลเวิล์ด เป็นต้น

“เราพยายามเชื่อมโยงบีทูเอสกับลูกค้าด้วยกิจกรรมเพื่อให้ความผูกพันของเรากับลูกค้าแข็งแรงและมั่นคงยิ่งขึ้น” จิตรลดา เล่าว่าที่ผ่านมาบีทูเอสมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ต่างกันและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่ลูกค้าอยู่ ภายใต้ ‘B2S CLUB’

“B2S Club เป็นคอมมูนิตี้ที่เกิดขึ้นจากความสนใจที่หลากหลายของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนังสือ เรื่องการเรียน เรื่องงานศิลป และเรื่องครอบครัว นำมาสู่การส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าใครก็เป็นสมาชิกได้ฟรี ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าจากร้านบีทูเอสก็มาร่วมทำกิจกรรมสนุกๆ จาก B2S และพันธมิตรอีกมากกว่า 20 ราย นอกจากนี้ B2S Club ยังได้เข้าไปทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ถึงในโรงเรียน หรือพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างสม่ำเสมอ ภายในปี 2567 คาดว่าจะมีสมาชิก B2S Club มากกว่า 450,000 คน”

ปัจจุบันคอมมูนิตี้หลักๆ ภายใน B2S Club ได้แก่ ‘คอมมูนิตี้รักการอ่าน’ นอกจากจะมีหนังสือหลากหลายในเลือกยังมุ่งส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรักการอ่าน ทั้งอ่านเรียนและอ่านเล่น ด้วยการจับมือกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการอ่านผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ เวทีเสวนาหนังสือ, กิจกรรม Book Fansign หนังสือดังที่นำไปสู่การทำซี่รี่ส์หนังที่เป็นกระแสแห่งปี หรือ การประกวดเล่านิทานเด็ก ‘หนูน้อยร้อยเรื่องเล่า’

“อย่างกิจกรรม ‘หนูน้อยรักการอ่าน’ เป็นกิจกรรมที่เราจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ใน 3 จังหวัด กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น ทำงานร่วมกับศึกษาธิการจังหวัด มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตื่น สำนักพิมพ์นานมีบุคส์ สำนักพิมพ์ในเครือไอดีซี ให้นักเรียนเข้าร่วมแข่งขันอ่านหนังสือ ผ่านห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ B2S Club ซึ่งสามารถเข้าไปอ่านได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อเปิดโลกการอ่านนอกห้องเรียน พร้อมมอบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ให้คุณครูและนักเรียนได้อ่านฟรี! ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนปี้เราจะจัดกิจกรรม ‘หนูน้อยรักการอ่าน’ ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดสงขลา”

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสำหรับบุคคลทั่วไป อย่าง B2S BOOK AWARDS ที่เพิ่งจัดปีนี้เป็นปีแรก เพื่อมอบรางวัลหนังสือดีเด่นจากสำนักพิมพ์ต่างๆ รวมถึงรางวัลผู้มีอิทธิพลบน Social Media ในหลากหลายสไตล์การนำเสนอ ทั้งที่เป็นสื่อ และเป็นคอมมูนิตี้ที่มีส่วนผลักดัน ส่งเสริม และเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้วงการหนังสือเติบโตอย่างกว้าง

‘คอมมูนิตี้สร้างแหล่งการเรียนรู้’ เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบีทูเอสที่จะเป็น Learning Destination ทั้งในและนอกโรงเรียน ผ่านการจัดติวเตอร์โครงการ B2S Smart To U (University) ให้กับนักเรียนในต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้จากราก โดยร่วมมือกับ อินสครู (InsKru) คอมมูนิตี้สำหรับคุณครู จัดกิจกรรม ‘ครูบ้ากล้าลอง’ เปิดพื้นที่ให้ครูได้นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดการสอน ยกระดับ และพัฒนาศักยภาพครู

‘คอมมูนิตี้คนรักเกม’ นอกจากจะเป็นแห่งแรกของไทยที่เปิด Pokémon PLAYLAB ที่ครบครันที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 6 แห่ง ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างคอมมูนิตี้โปเกมอนเทรดดิ้งการ์ดเกมด้วย Line Open Chat ที่มีจำนวนเพื่อนมากกว่า 1,400 คน ยังต่อยอดสนับสนุนเด็กไทยสู่การแข่งขันโปเกมอนการ์ดในเวทีโลกอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี

“นอกจากนี้ เรายังจับมือกับพาร์ทเนอร์จัดแข่งขันบอร์ดเกมในระดับภูมิภาค และจัดประกวดออกแบบบอร์ดเกมโดยฝีมือคนไทย เพื่อสร้างโอกาสในการได้จัดจำหน่ายทั้งในร้านและส่งออกไปยังต่างประเทศ”

และสุดท้ายคือ ‘คอมมูนิตี้สร้างแรงบันดาลใจด้านศิลปะ’ เพื่อเป็น ART Destination สำหรับลูกค้า บีทูเอสจึงคัดสรรอุปกรณ์ศิลปะและงานคราฟท์จากแบรนด์ชั้นนำมาวางจำหน่าย พร้อมเปิดพื้นที่ในร้านให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานด้านศิลปะ สนับสนุนการสร้างงานศิลปะ ของศิลปินและนักศึกษา

“ที่ผ่านมาเราจัดประกวดออกแบบกระดาษห่อของขวัญ Gift Wrapping Design Contest โดยผลงานผู้ชนะจะนำมาผลิตเป็นกระดาษห่อของขวัญ มาทำเป็น B2S Gift Card รวมทั้งตกแต่ง Display ร้านบีทูเอส รวมไปถึงจับมือกับแกลลอรี่ ออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสการแสดงผลงานให้ออกไปนอกร้าน นอกจากนี้เรายังมีแผนที่จะร่วมงานกับศิลปินและคาแรกเตอร์ต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าได้”

นอกจากกิจกรรมต่างๆ ข้างต้น บีทีเอสยังมีกลยุทธ์สร้างความผูกผันกับลูกค้าด้วยการทำตลาดแบบ Omni-channel เชื่อมโยงประสบการณ์การช้อปปิ้งผ่าน The 1 และโปรโมชั่นที่เหมาะสมในแต่ละช่องทาง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อที่แตกต่าง ให้ลูกค้าช้อปสะดวกได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างไร้รอยต่อ

“ปัจจุบัน เรามีสาขากว่า 130 สาขา พร้อมด้วยช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ www. b2s.co.th Facebook B2S Thailand, Line B2S Thailand, Line Chat & Shop, Shopee B2S Official shop, Lazada B2S Official, TikTok B2S Thailand ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปที่เหนือกว่า ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังสาขา หรือถ้ามาหน้าร้านแล้วสินค้าที่ต้องการอยู่สาขาอื่นก็มีบริการจัดส่งถึงบ้าน ในทางกลับกันจะสั่งผ่านออนไลน์แล้วมารับสาขาใกล้บ้านก็ได้ ตอนนี้เรากำลังพัฒนาเว็บไซต์เพื่อให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าดียิ่งขึ้น”

จิตรลดา มองว่าคู่แข่งที่ท้าทายไม่ใช่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมเดียวกันแต่เป็นร้านค้าออนไลน์ที่เล่นกันในสงครามราคา “เราเชื่อมั่นในจุดแข็งเรื่องการคัดสรรสินค้าคุณภาพจากพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้ มีการรับประกัน รวมถึงการมีพนักงานที่พร้อมให้บริการ อย่างก็ตามการบริการยังเป็นสิ่งสำคัญสำหคับคนไทย ไม่ว่าจะสั่งสินค้าออนไลน์หรือซื้อหน้าร้านก็จะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำอยู่เสมอ”

จิตรลดา ยังบอกด้วยว่าการตลาดแบบ Omni-channel จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นหากธุรกิจไม่เจอวิกฤตโควิด-19 “เนื่องจากเราทำธุรกิจค้าปลีกและร้านค้าเกือบทั้งหมดอยู่ในห้าง ช่วงวิกฤตโควิดกระทบกับธุรกิจโดยตรงเพราะต้องปิดร้าน จุดนั้นเองทำให้เรามองเห็นจุดบอดของธุรกิจที่พึ่งช่องทางการขายเดียว แต่นั่นก็กลายเป็นจุดเรียนรู้ เป็นบทเรียนที่ต้องหันมาจริงจังกับการตลาดแบบ Omni-channel มากกว่านี้ เพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์เพิ่มขึ้น พร้อมกับการพัฒนาให้หน้าร้านสามารถขายสินค้าที่มากกว่าที่ร้านมี”

ไม่แต่เฉพาะการปรับตัวด้านธุรกิจแต่ยังได้ยกเครื่องคนในองค์กร ปลูกฝังเรื่องการปรับตัวและการคิดในมุมมองของลูกค้า สร้างพนักงานที่มี Growth Mindset คิดเสมอว่าทุกอย่างเรียนรู้ได้ และไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สังเกตทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยแฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนไปกับการเติบโตและไลฟ์สไตล์ของผู้คน ฉะนั้น เมื่อไรที่ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนตาม”

เมื่อถามถึงแนวทางต่อไปในวันที่บีทูเอสก้าวย่างสู่ปีที่ 25 จิตรลดา บอกว่าสิ่งที่ทำได้ทันทีคือการนำความสำเร็จมาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การขยายช่องการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงง่ายและสะดวกที่สุด การพัฒนาระบบที่ช่วยให้ทุกร้านของ B2S สั่งสินค้าที่นอกเหนือจากในร้านได้ผ่านการสั่งซื้อกับพนักงานขายหน้าร้าน การใช้ Loyalty Platform มาช่วยให้การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

“สิ่งที่เราเน้นย้ำอย่างมากในปีนี้คือ บีทูเอสจะเป็นแหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน เราจึงต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้นำด้านกิจกรรมและพัฒนาคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ผ่าน B2S Club รวมไปถึงการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ ผ่านโรงเรียนในชุมชนที่สาขาไปเปิด ร่วมกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ ทั้งกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ทั้งนอกโรงเรียน และในโรงเรียน”

นอกเหนือจากโปรโมชั่นดีๆ ที่มอบให้กับลูกค้า เนื่องในโอกาส B2S ครบรอบ 24 ปี จนถึงสิ้นปี 2567 ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งาน B2S ART & GIFT Festival ในวันที่ 8-17 พ.ย.67 B2S เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4 และวันที่ 6-15 ธ.ค. 67 B2S เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 5 เพื่อให้การมอบของขวัญของลูกค้าพิเศษกกว่าเดิม

“เดือน พ.ย.-ธ.ค. นี้ เป็นช่วงของเทศกาลแห่งความสุขเทศกาลของขวัญ เพื่อตอกย้ำความเป็น Art Destination เราจึงจัดงานอีเวนท์ที่รวมทั้งงานอาร์ตและงานคราฟท์ไว้ด้วยกัน มาทำของขวัญมอบให้คนพิเศษด้วยตัวเองหรือมาเลือกซื้อของขวัญภายในงาน โดยจะครีเอทให้เป็น Art Market ให้ร้านค้าพาร์ทเนอร์มาร่วมออกร้าน และยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้ครีเอเตอร์ไทยได้มาแสดงความสามารถ สำหรับโปรโมชั่นปลายปีก็ยังจัดเต็มแน่นอน”

ไม่ว่าปีนี้หรือปีต่อๆ ไป เวลาพูดถึงบีทูเอส เราอยากให้เขานึกถึง พื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ ที่ไม่ได้มาแค่ซื้อของแต่มาเพื่อเติมแรงบันดาลใจและมีความสุขไปด้วยกัน” จิตรลดา กล่าวทิ้งท้าย