เซ็นทรัล รีเทล ร่วมรักษ์โลกผ่านแคมเปญ “60+ Earth Hour 2022” ดีเดย์ปิดไฟหน้าร้าน 1 ชั่วโมง ทุกสาขาทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ 25 มีนาคม 2565 – เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC แสดงพลังรักษ์โลกผ่านการสนับสนุนกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” ร่วมกับ WWF ประเทศไทย, มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ประเทศไทย) และสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โดยจะทำการ ปิดไฟหน้าร้านทั่วประเทศของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน, ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ดีเดย์พร้อมกันทุกสาขา เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 เวลา 20.30 – 21.30 น. เพื่อร่วมรณรงค์ลดการใช้พลังงาน สร้างการมีส่วนร่วมพร้อมแสดงเจตจำนงที่จะช่วยกันแก้ไขและบรรเทาสาเหตุที่จะนำไปสู่วิกฤตการณ์ที่จะก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนในอนาคต
ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CSV (Corporate Social Value) ขององค์กร โดยในครั้งนี้เราได้เข้าร่วมกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 15 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการมีส่วนร่วมขององค์กรที่ให้ความสำคัญในการลดพลังงาน และมีความตั้งใจที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เราเชื่อว่าการเข้าร่วมแคมเปญนี้จะเป็นพลังอันสำคัญที่ช่วยอนุรักษ์โลก เซ็นทรัล รีเทล ขอเชิญชวน
ประชาชนคนไทยทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมลดโลกร้อนด้วยวิธีง่าย ๆ ใน 1 ชั่วโมง ได้แก่ ปิดสวิตช์ไฟดวงที่ไม่จำเป็นภายในบ้าน, ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน, ปิดโทรทัศน์, ปิดแอร์ เป็นต้น พร้อมมาร่วมกันแสดงพลังที่ไม่ใช่แค่คำพูดแต่ลงมือทำพร้อมกันกับผู้คนทั่วโลกในค่ำคืนวันที่ 26 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 20.30 - 21.30 น.”
“การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนภาพ เซ็นทรัล รีเทล ที่พร้อมนำศักยภาพองค์กร มาร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมจากภายในสู่ภายนอกองค์กร เพื่อให้ภาคธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในระยะยาว ที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับชีวิตผู้คน สังคมและโลกให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้แก่สังคมในที่ที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน” ปิยวรรณ กล่าวสรุป