คณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมชมธุรกิจในเครือ และโครงการด้านความยั่งยืน
วันที่ 10-12 มกราคม 2568 คณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมธุรกิจในเครือและโครงการด้านความยั่งยืนที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงานที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม สะท้อนแนวคิดการสร้างคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมผลักดันปรัชญา CRC Care สู่การลงมือทำจริง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
จุดแรกของการเยี่ยมชมเริ่มต้นที่ ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเชียงใหม่ สันทราย ซึ่งเป็นสาขาที่ 74 บนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. สาขานี้มีการนำระบบวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบนิเวศ (Data Ecosystem) มาใช้เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่รวดเร็วตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นจากฝีมือชุมชน รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดผ่านการติดตั้งโซลาร์รูฟขนาด 999 KWp และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่านการปลูกต้นไม้ใหญ่โดยรอบ
ถัดมา คณะกรรมการได้เดินทางไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ โดยมีธุรกิจในเครือ อาทิ เพาเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส ในการผนึกกำลังความร่วมมือในโครงการและกิจกรรมต่างๆ อาทิ ภัยพิบัติธรรมชาติ, กิจกรรมสานใจสร้างไออุ่น ครั้งที่ 28 ส่งมอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว และทำความสะอาดถนนสาธารณะพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลฟ้าฮ่าม และเยี่ยมชมแผนก Beauty รวมถึงการปรับปรุงสาขาใหม่ที่ยกระดับการจัดการผ่านนวัตกรรมและการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งดำเนินการจัดการของเหลือจากการขายในแต่ละวัน มีการแบ่งผักผลไม้และอาหารพร้อมทานเพื่อส่งมอบให้กลุ่มผู้เปราะบางด้านอาหาร โดยร่วมมือกับมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) ทั้งในรูปแบบการบริจาคสินค้าและการนำของเสียไปกำจัดอย่างเหมาะสม พร้อมกับ Recycle Station ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการแยกขยะอย่างเป็นระบบ ให้กับผู้เช่าและลูกค้า ให้ช่วยกันลงมือทำเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งจุดเยี่ยมชมที่สำคัญ คือ GO WHOLESALE (โก โฮลเซลล์) ซึ่งเปิดเป็นสาขาที่สอง (จาก 10 สาขาทั่วประเทศ) บนพื้นที่ขาย 8,000 ตารางเมตร และกองทัพสินค้ากว่า 20,000 รายการ เป็นศูนย์ค้าส่งอาหารสำหรับผู้ประกอบการ ที่นี่นอกจากจะสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น เช่น แบรนด์ชีส “จาร์ทิซานน์” (Jartisann) และผลิตภัณฑ์ปลานิลแดงจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยังให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมการคัดแยกขยะครบวงจร รวมถึง มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาทิ การใช้ E-bike ในการขนส่งสินค้า การจัดการสินค้าใกล้หมดอายุอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนมาใช้ตู้แช่เย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ตลาดจริงใจ เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางที่ส่งเสริมสินค้าชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอย่างครบวงจร โดยขยะทั้งหมดถูกแยกออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ ขยะอาหาร ขยะรีไซเคิล ภาชนะกระดาษเปื้อน ขยะติดเชื้อ ขยะอันตราย ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก AIS ในการจัดการขยะประเภทนี้ให้ถูกวิธี) และขยะทั่วไป โดยวัสดุรีไซเคิลจะถูกส่งต่อให้พาร์ทเนอร์ Recycle Day ในขณะที่ถุงพลาสติกและพลาสติกประเภทอื่นๆ ถูกส่งให้โครงการ Green Road เพื่อแปรรูปเป็นบล็อกปูพื้นถนน ส่วนหลอดพลาสติกจะถูกส่งต่อให้เทศบาลเชียงใหม่สำหรับผลิตหมอนเพื่อผู้ป่วยติดเตียง สำหรับขยะอาหาร ทางตลาดได้นำไปแปรรูปโดยใช้ เครื่องผลิตปุ๋ยหมักและก๊าซชีวภาพ ซึ่งสามารถเปลี่ยนขยะอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่นำกลับมาใช้ในภาคการเกษตร และผลิตก๊าซชีวภาพที่สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานทางเลือก การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ถัดมา คณะกรรมการฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชม โรงเรียนวัดดอนชัย เพื่อดูความก้าวหน้าในการพัฒนาสถานศึกษาและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ เซ็นทรัล ทำ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในโลกกว้าง จุดแยกขยะที่ปลูกฝังแนวคิดการจัดการขยะอย่างถูกวิธี และแปลงปลูกผักที่ใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับโรงเรียนอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชม ชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ การท่องเที่ยวชุมชนวิถีเกษตรอินทรีย์ ที่ เซ็นทรัล ทำ ร่วมกับ มูลนิธิสายใยแผ่นดิน (Earth Net Foundation) ดำเนินโครงการพื้นที่วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา ตั้งแต่ปี 2560 โครงการนี้มีเป้าหมายสนับสนุนเกษตรอินทรีย์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรุ่นใหม่มีบทบาทในการขับเคลื่อนการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยนอกจากเป็นแหล่งเพาะปลูกผลผลิตอินทรีย์ที่มีคุณภาพจากต้นทางแล้ว ยังได้เข้าไปช่วยเหลือชุมชนด้านการพัฒนาผลผลิต การรับซื้อ การสร้างแบรนด์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตและจัดจำหน่าย ผ่านการก่อสร้างอาคารอบรมและห้องคัดแยกเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ การปรับปรุงอาคารคัดบรรจุผักให้เป็นไปตามมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ตลอดจนจัดซื้อรถขนส่งห้องเย็นให้กับชุมชน
นอกเหนือจากการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูก เซ็นทรัล ทำ ยังมุ่งสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับชุมชนผ่านการท่องเที่ยว โดยสนับสนุนกลุ่มเกษตรรุ่นใหม่ 20 ราย จัดตั้ง ‘วิสาหกิจชุมชนแม่ทา ออร์แกนิค’ เพื่อรองรับกิจกรรมด้านเกษตรแบบยั่งยืนและการท่องเที่ยววิถีชุมชนผ่านการเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ และการจัดทำที่พักโฮมสเตย์ เพื่อให้ผู้สนใจเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ได้เข้าพัก พร้อมไปกับการเรียนรู้การเกษตรอย่างยั่งยืน
คณะกรรมการ กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า “เป็นโอกาสอันดีที่คณะกรรมการได้สัมผัสถึงความก้าวหน้าในการดำเนินการโครงการความยั่งยืนและเห็นความมุ่งมั่นอย่างเป็นรูปธรรมของบริษัทในการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ ESG พร้อมสร้างผลเชิงบวกให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเราเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว” นอกจากนี้ยังได้หารือถึง ทิศทางและเป้าหมายด้านความยั่งยืนในอนาคต โดยเน้นย้ำถึงแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และการสนับสนุนโครงการที่ช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยยึดมั่นในปรัชญา CRC Care เพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG