นวัตกรรม

เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นพัฒนาและประยุกต์เทคโนโลยีนวัตกรรมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนและกลยุทธ์ธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าและให้บริการออนไลน์ การทำการตลาดไร้รอยต่อ (omnichannel marketing) ที่มอบบริการให้ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และนวัตกรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่พนักงาน คู่ค้า นักลงทุนและผู้ถือหุ้น และเซ็นทรัล รีเทล ตระหนักถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างมาก จึงให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในฐานะที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยทำให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันและต่อยอดให้เซ็นทรัล รีเทล เติบโตแบบก้าวกระโดด

ในขณะเดียวกัน เซ็นทรัล รีเทล ได้พิจารณาถึงความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับนวัตกรรม การพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมอาจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินธุรกิจภายในเซ็นทรัล รีเทล รวมถึงพนักงานที่จำเป็นต้องมีทักษะใหม่ ๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้การมีทักษะเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป นอกจากนี้ การบูรณาการนวัตกรรมเข้ากับระบบเดิมเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและอาจทำให้เกิดการหยุดชะงักและสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงยังมีความท้าทายในเรื่องการประเมินรายได้จากการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทำให้แม่นยำได้ยาก

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ เซ็นทรัล รีเทล ต้องส่งเสริมความพร้อมให้กับพนักงานและระบบสารสนเทศในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยมีการออกแบบกรอบการพัฒนาศักยภาพพนักงานอย่างเป็นระบบและการทบทวนความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเซ็นทรัล รีเทล ยังให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกเทคโนโลยีที่จะเข้ากันได้ดีกับระบบสารสนเทศเดิม และมีการวางแผนการบูรณาการระบบอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ระบบสารสนเทศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ มาตรการเหล่านี้จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับเซ็นทรัล รีเทล ในการยกระดับประสิทธิภาพพนักงานและระบบสารสนเทศ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้จัดทำเกณฑ์วัดผลงานอย่างชัดเจน ติดตามผลงานตามตัวบ่งชี้ผลงานหลัก (KPIs) และประเมินผลกระทบของนวัตกรรมต่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอย่างสมํ่าเสมอ

ผลกระทบต่อธุรกิจ ผู้มีส่วนได้เสีย และสิทธิมนุษยชน

นวัตกรรมสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจอย่างมาก ทั้งในแง่การสร้างโอกาสในการเติบโต การส่งเสริมประสิทธิภาพ และสร้างเสริมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และยังเป็นเครื่องมือและกรอบการทำงานที่สามารถยกระดับให้พนักงานมีทั้งผลิตภาพและประสิทธิผล การที่บริษัทฯ ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่ลํ้าสมัย เป็นการแสดงถึงจุดยืนของบริษัทฯ ว่าเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกและมีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว การใช้ซอฟต์แวร์บริหารโครงการ เทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูง และเครื่องมือส่งเสริมความร่วมมือในการทำงาน จะช่วยให้เซ็นทรัล รีเทล ฯ ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล เช่น การคัดเลือกสินค้าหรือพัฒนาแคมเปญการตลาด สิ่งนี้จะทำให้ผลิตภาพเพิ่มขึ้น การแก้ไขปัญหารวดเร็วขึ้น และมีการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การประยุกต์นวัตกรรมสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างปฏิสัมพันธ์ออนไลน์อย่างราบรื่น และการให้บริการลูกค้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ สามารถส่งเสริมให้เซ็นทรัล รีเทล สร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าแบบเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ตลอดจนความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าผ่านทุกช่องทาง (Omnichannel) ได้อย่างเต็มที่ อันจะทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจและความภักดีต่อแบรนด์ของบริษัทฯ มากขึ้น และส่งผลให้ยอดขายและรายได้ของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

นวัตกรรมมีอิทธิพลในวงกว้างต่อผู้มีส่วนได้เสียหลากหลายกลุ่ม นวัตกรรมทำให้พนักงานตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาหรือต่อยอดทักษะของตัวเองและยังเป็นโอกาสของพนักงานในการพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างคุณค่าให้องค์กรมากขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้นวัตกรรม เช่น ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล จะช่วยยกระดับการดำเนินงานด้านห่วงโซ่อุปทาน เพราะสามารถคาดการณ์อุปสงค์ล่วงหน้าและจัดการสินค้าคงคลังได้ดีขึ้นกว่าเดิม ความเสี่ยงที่จะสั่งสินค้ามากเกินหรือน้อยเกินความต้องการจะลดลง เมื่อคู่ค้าสามารถคาดการณ์ปริมาณการผลิตและการส่งสินค้าและบริการ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ นวัตกรรม อย่างแพลตฟอร์ม Omnichannel ยังขยายช่องทางบริการของเซ็นทรัล รีเทล ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ที่สำคัญ นวัตกรรมของเซ็นทรัล รีเทล ยังสร้างประโยชน์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ยกตัวอย่างเช่น นวัตกรรมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถช่วยเชื่อมต่อลูกค้ากับชุมชนผู้ผลิตในพื้นที่ห่างไกล หน่วยงานภาครัฐก็ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่มีพลวัตมากขึ้น มีรายได้จากภาษีมากขึ้น รวมถึงมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นวัตกรรมส่งเสริมให้ผลกำไรและรายได้ของเซ็นทรัล รีเทล เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นเพิ่มมากขึ้นและสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น

แนวทางการบริหารจัดการ

เซ็นทรัล รีเทล ดิจิทัล ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเซ็นทรัล รีเทล มีหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรให้เปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล สู่การเป็นบริษัทฯ เทคโนโลยีและค้าปลีกระดับโลกอย่างเต็มตัว และยังมีหน้าที่ในการสร้างแพลตฟอร์ม Omnichannel ไร้รอยต่อที่ดีที่สุดของประเทศไทย โดยเน้นนวัตกรรมที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมการใช้งานนวัตกรรมตามลำดับความสำคัญในห่วงโซ่คุณค่าของการค้าปลีก

เซ็นทรัล รีเทล ประกาศใช้กลยุทธ์ ‘CRC Retailligence’ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านค้าปลีก โดยบริษัทฯ ยกระดับการให้บริการสู่รูปแบบค้าปลีกแห่งอนาคตด้วยแพลตฟอร์ม Omnichannel ผ่านการขับเคลื่อนด้วยระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และกระบวนการพัฒนานวัตกรรมที่ออกแบบโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มอบประสบการณ์เลือกซื้อสินค้าที่พิเศษไม่เหมือนใครให้แก่ลูกค้าผ่านร้านค้าหรือศูนย์ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ

ในกระบวนการพัฒนานวัตกรรมของเซ็นทรัล รีเทล มีการจัดตั้งทีมด้านนวัตกรรมองค์กร ที่มุ่งเน้นให้กลุ่มพนักงานที่มีศักยภาพสูงจากหลากหลายหน่วยธุรกิจทำงานร่วมกันและลดทอนการทำงานแบบแยกกันทำงาน อีกทั้งยังมีการผลักดันให้ทำงานอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจและช่วยให้เกิดการเรียนรู้และการปรับตัวอย่างรวดเร็วภายในองค์กร กระบวนการพัฒนานี้คาดว่าจะปลูกฝังแนวทางการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับนวัตกรรมโดยการมองรอบด้านและคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้จริง และยังคาดว่ากระบวนการนี้จะช่วยให้มีการใช้งานนวัตกรรมต่างๆ ตามลำดับความสำคัญทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจค้าปลีก

กระบวนการคิดค้นนวัตกรรมจะถูกนำมาประยุกต์ใช้กับแพลตฟอร์ม Omnichannel และการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เซ็นทรัล รีเทลได้มุ่งเน้นการสื่อสารกับพนักงานทุกระดับถึงกระบวนการคิดค้นนวัตกรรม ประกอบด้วย 1) การออกแบบ 2) การสร้างแบบจำลอง 3) การทดลองประสิทธิผล และ 4) การวิเคราะห์ปัญหารวมถึงอุปสรรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทลได้สนับสนุนศูนย์พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี Central Tech Retail Lab เพื่อทดลองพัฒนานวัตกรรมภายในองค์กรผ่านการร่วมลงทุนในบริษัท Start-Up ที่มีศักยภาพ

โครงการสำคัญ

C-Coin Application

C-Coin ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2564 โดยเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อมอบรางวัลให้แก่พนักงานที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของเซ็นทรัล รีเทล โดยมีวัตถุประสงค์โครงการเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานทั้งภายในและระหว่างหน่วยงานธุรกิจต่าง ๆ ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ให้รางวัลแก่พนักงานที่เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบเหรียญ C-Coin โดยเหรียญจะมีมูลค่าเหมือนเงิน ที่สามารถนำไปใช้จ่ายในร้านค้าของเซ็นทรัล รีเทล อาทิ ท็อปส์ บีทูเอส ออฟฟิศเมท ซูเปอร์สปอร์ต ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เป็นต้น

เหรียญ C-Coin เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับสร้างการมีส่วนร่วมในกิจกรรมและวัฒนธรรมองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนค่านิยมหลัก I.CARE แคมเปญด้านความยั่งยืน ความร่วมมือในโครงการต่างๆ กิจกรรมแสดงความยินดี หรือวัฒนธรรมการเรียนรู้ต่างๆ นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้รายได้จากการที่พนักงานใช้เหรียญ C-Coin เพื่อซื้อสินค้าด้วย ในปี 2566 มีเหรียญ C-Coin หมุนเวียนอยู่ในระบบ 5.6 ล้านเหรียญ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 350 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีพนักงานกว่า 36,000 คน ใช้เหรียญ C-Coin ทุกวัน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าปีก่อนถึงร้อยละ 40

C-Verse

C-Verse เปิดตัวในปี 2566 ในรูปแบบแพลตฟอร์มค้าปลีกที่ให้ประสบการณ์เสมือนจริง (Immersive Retail Platform) จากการรวมเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) Augmented Reality (AR) และ Generative AI เข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้ ในประสบการณ์ C-Verse จะเป็นรูปแบบการบูรณาการจากช่องทางตั้งแต่ออฟไลน์ ออนไลน์ สื่อสังคมออนไลน์ การออกอากาศสดออนไลน์ (Live-streaming) ไปจนถึง Virtual Reality พันธมิตรทางธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าและบริการมากมายบน C-Verse รวมทั้งเป็นโครงการที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเซ็นทรัล รีเทล ในการต่อยอดเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเป็น Next-Gen Omni Retailer อันดับ 1 ในเอเชีย ภายใต้กลยุทธ์ CRC Retailligence ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม C-Verse ยังส่งเสริมเป้าหมายอื่น ๆ เช่น การสร้างความตระหนักรู้ด้านความยั่งยืนผ่านเกมซึ่งลูกค้าสามารถได้ความรู้ขณะที่เล่นเพื่อเก็บของรางวัล นับเป็นการสร้างสร้างผลกระทบเชิงบวกในโลกได้จริง