อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน โดย มุ่งมั่นในการจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย ด้วยการบ่งชี้และจัดการกับความเสี่ยงและอันตรายต่าง ๆ อย่างครอบคลุม รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรฐานด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับประเทศและสากลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานและผู้ปฏิบัติงานทุกคนจะได้รับความปลอดภัยและมีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งส่งผลให้การดำเนินธุรกิจเป็นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
เป้าหมาย
ผลกระทบต่อธุรกิจ ผู้มีส่วนได้เสีย และสิทธิมนุษยชน
แนวปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แตกต่างกัน สำหรับพนักงาน มาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน ลดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย และช่วยสร้างความพึงพอใจในการทำงาน ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมในการเลือกซื้อสินค้าที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์และความภักดีของลูกค้า นักลงทุนและผู้ถือหุ้นมีความเชื่อมั่นในเซ็นทรัล รีเทล ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงการจัดการความเสี่ยงอย่างมีความรับผิดชอบและสามารถดึงดูดการลงทุนได้ คู่ค้าได้รับการสนับสนุนในการรักษาแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลด้านมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มีความเชื่อมั่นว่าเซ็นทรัล รีเทล ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและปกป้องสิทธิของพนักงาน ชุมชนเห็นว่า เซ็นทรัล รีเทล เป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบ และช่วยเพิ่มชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดี ดังนั้น แนวทางปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันโดยการดึงดูดลูกค้าและพนักงานที่มีความสามารถ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงให้กับธุรกิจด้วย
แนวทางการบริหารจัดการ
เซ็นทรัล รีเทล ได้มีนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และกำหนดให้หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล หัวหน้าฝ่ายป้องกันการสูญเสีย และหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยฯ ของแต่ละหน่วยธุรกิจ กำกับดูแลและพัฒนาระบบบริหารจัดการความปลอดภัยฯ ให้ครอบคลุมทั้งพนักงานและผู้รับเหมาในทุกพื้นที่การดำเนินงาน ได้แก่ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเช่า และศูนย์กระจายสินค้า นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีการตรวจสอบภายใน (Internal audits) และการตรวจสอบภายนอก (External audits) ประจำปี เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานในระดับสากล ดังนี้
- มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001
- พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. 2514
- พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558
- กฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566
- พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
- พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557
- พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ประกาศกรม และกฎ ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของประเทศไทย
- พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562
- หลักเกณฑ์ภายใต้ Decree เลขที่ 81/2008 เรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน รวมทั้งโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ (หน่วยธุรกิจในประเทศอิตาลี)
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ประกอบด้วย ผู้จัดการสาขา ผู้จัดการด้านความปลอดภัย ตัวแทนพนักงานอย่างน้อย 2 คน และบุคลากรทางการแพทย์ มีหน้าที่ส่งเสริมการดำเนินงาน และสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการนำนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ไปปฏิบัติ ตรวจติดตามผล และปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีหน้าที่กำกับดูแลการวางแผนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Accident prevention plan) และการส่งเสริมความปลอดภัย (Safety promotion) โดยจัดให้มีกิจกรรมสำรวจความปลอดภัย (Safety walk) ภายในสาขา ตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ตรวจสอบสาเหตุกรณีบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน และรับเรื่องร้องเรียนและข้อคิดเห็นต่าง ๆ โดยคณะกรรมการฯ จะมีการประชุมประจำเดือน และประจำปี เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ พนักงานทุกคนยังสามารถรับทราบนโยบายและแนวปฏิบัติต่าง ๆ และข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางออนไลน์ และประกาศบนบอร์ดของเซ็นทรัล รีเทล
เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงแนวปฏิบัติและระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุและการบาดเจ็บให้น้อยที่สุด และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานทุกคน โดยแนวปฏิบัติประกอบด้วย การกำหนดนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน การจัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การกำหนดเป้าหมายและแผนการดำเนินงาน การฝึกอบรมให้แก่พนักงานและผู้รับเหมา การดำเนินงานตามลำดับชั้นการควบคุมเพื่อขจัดอันตราย (Hierarchy of controls) การจัดลำดับของแผนการดำเนินงาน และมาตรการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการประเมินและติดตามอันตรายและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมการทำงาน นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีแผนบริหารจัดการกระบวนการและฐานข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งหมด และพัฒนาการจัดลำดับความสำคัญของแผนปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณ เพื่อรับมือกับความเสี่ยง รวมทั้งการขับเคลื่อนและพัฒนาข้อบกพร่องที่ยังเป็นประเด็นสำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้แนวปฏิบัติและกระบวนการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของเซ็นทรัล รีเทล มีรายละเอียดดังนี้
การปฏิบัติตามนโยบายและการกำกับดูแลประสิทธิภาพ
หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล หัวหน้าฝ่ายป้องกันการสูญเสีย และหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยฯ ของแต่ละหน่วยธุรกิจ มีหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานภายใน (Internal audit) และขอรับการตรวจสอบจากองค์กรภายนอก (External audits) ประจำปี เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานสอดคล้องตามกฎหมายภายในประเทศ และระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001)
นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณประจำปี จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด และจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานรายไตรมาสให้กับคณะผู้บริหารหรือคณะกรรมการบริษัทฯ
นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ แก่คู่ค้าและผู้รับเหมา
เพื่อให้แน่ใจว่าคู่ค้าและผู้รับเหมาจะปฏิบัติตามมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานของเซ็นทรัล รีเทล จึงได้มีการนำหลักเกณฑ์และข้อกำหนดด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการทำสัญญา โดยมีฝ่ายจัดซื้อของทุกหน่วยธุรกิจเป็นผู้กำกับดูแล
โดยก่อนที่จะทำข้อตกลงกับคู่ค้าและผู้รับเหมา ฝ่ายจัดซื้อจะรวมเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ไว้ในเอกสารการจัดซื้อและสัญญาทั้งหมด ตลอดจนตรวจสอบว่าคู่ค้าและผู้รับเหมามีใบอนุญาตและใบรับรองที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นหรือไม่ ในกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าและผู้รับเหมา จะมีการจัดลำดับความสำคัญและคัดเลือกผู้รับเหมาและคู่ค้าที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและมีระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยรวมหลักเกณฑ์และข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย การฝึกอบรมด้านความปลอดภัย และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เป็นต้น และในกระบวนการทำสัญญา ได้รวมเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไว้ในสัญญาที่ลงนามโดยคู่ค้าและผู้รับเหมา ทั้งนี้การนำเกณฑ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เข้ามาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง สามารถลดความเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นตลอดห่วงโซ่อุปทาน
การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง และการตรวจสอบกรณีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยมีความสำคัญในการขับเคลื่อน ดำเนินงาน และปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เซ็นทรัล รีเทลจึงได้คัดเลือกเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติและมีประสบการณ์ตรง รวมทั้งกำหนดให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและพนักงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอบรมมาตรฐาน ISO 45001:2018 Hazard Identification & Risk Assessment และการฝึกอบรมเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยมีหน้าที่กำหนดกระบวนการระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยงเพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินระดับความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน หากพนักงานได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน เซ็นทรัล รีเทล จะรับผิดชอบการรักษาพยาบาลและการประกันภัยที่เหมาะสม โดยมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสอบสอบอุบัติเหตุดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุ ผลจากของการระบุอันตรายและการประเมินความเสี่ยง ตลอดจนการสอบสวนอุบัติเหตุนำมาใช้เพื่อพัฒนาแผนการดำเนินงานที่เน้นการลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดซ้ำ โดยแผนดังกล่าวจำเป็นต้องมีตัวชี้วัดและเป้าหมายที่ชัดเจนในการปรับปรุงระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังสนับสนุนให้พนักงานและผู้รับเหมามีส่วนร่วมในกระบวนการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยผ่านการสื่อสารและการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ มีกระบวนการป้องกันการกระทำใด ๆ ที่ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตราย และการรายงานความเสี่ยงผ่านหัวหน้างาน ผู้จัดการแผนก และศูนย์ช่วยเหลือ (Help center) เพื่อขอความช่วยเหลือและประสานงานกับแผนกที่เกี่ยวข้อง
กระบวนการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยง
กระบวนการตรวจสอบกรณีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน
หลังจากดำเนินการระบุอันตรายและประเมินความเสี่ยงแล้ว เซ็นทรัล รีเทล ได้กำหนดลำดับชั้นของการควบคุม (Hierarchy of controls) เพื่อขจัดอันตรายอย่างเป็นระบบ โดยจัดลำดับความสำคัญของวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มจากการป้องกัน การทดแทน การควบคุมทางวิศวกรรมและการบริหาร และการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา
ตัวอย่างมาตรการที่ใช้แนวทางลำดับชั้นของการควบคุม (Hierarchy of controls) เพื่อลดอันตรายภายในบริษัทฯ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการทำงานและปัญหาด้านสุขภาพ มีดังต่อไปนี้
อันตรายจากการทำงาน (เหตุการณ์) | การบาดเจ็บและการเจ็บป่วย | มาตรการป้องกัน | มาตรการทดแทน | มาตรการควบคุมทางวิศวกรรมและการบริหาร | มาตรการอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล |
---|---|---|---|---|---|
ลื่นหกล้ม | ข้อเท้าแพลง |
|
|
|
สวมใส่รองเท้ากันลื่น |
การตกบันไดในห้องเก็บของ | แขนหัก | ใช้ระบบอัตโนมัติ | เปลี่ยนไปใช้ลิฟท์ยกของ | ติดตั้งราวกันตก | สวมใส่หมวกป้องกัน |
สิ่งของตกใส่ในห้องเก็บของ | บาดเจ็บที่ศีรษะ |
|
|
|
สวมรองเท้านิรภัย |
ยกของหนัก | บาดเจ็บที่หลังและขา | หลักเลี่ยงการยกของหนักโดยไม่มีเครื่องช่วยพยุง |
|
|
|
ภาระงานหนัก | ความเครียดจากการทำงานและปัญหาสุขภาพจิต | ปรับภาระงานให้เหมาะสม | ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการการ ทำงานที่ยืดหยุ่น |
|
|
โรคติดเชื้อ | อาการป่วยจากภาวะโรคติดเชื้อ และเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยัง ผู้อื่น |
|
การทำงานระยะไกล การเว้นระยะห่างทางสังคม |
|
|
การทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน | ออฟฟิศซินโดรม | จัดระเบียบพื้นที่ทำงานให้เป็นไปตามหลักกลศาสตร์ | ทำงานด้วยท่าทางที่เหมาะสมและเพิ่มการเคลื่อนไหวขณะทำงาน |
|
|
รถเข็นสินค้าชนลูกค้า | บาดเจ็บบริเวณเท้า ขา หรือลำตัว |
|
|
|
การสวมรองเท้าหัวปิดที่มีพื้นกันลื่นเพื่อช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่เท้า |
การฝึกอบรมอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายป้องกันการสูญเสีย แต่ละหน่วยธุรกิจร่วมจัดฝึกอบรมด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้กับพนักงาน ทั้งการฝึกอบรมแบบออนไลน์และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยมีหลักสูตรข้อบังคับตามแนวทางของกฎหมาย และหลักสูตรสมัครใจต่าง ๆ เช่น การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน และกรณีศึกษาในคลังสินค้า เป็นต้น รวมทั้งการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการขับขี่และการขับขี่อย่างปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถและพนักงานจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายป้องกันการสูญเสีย ฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจ มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพื่อนำมาปรับปรุงการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การส่งเสริมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการดำเนินงาน
เซ็นทรัล รีเทล มีการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และบริการด้านสุขภาพแก่พนักงานและผู้รับเหมา โดยจัดให้มีห้องปฐมพยาบาลในทุกสถานประกอบการ มีสวัสดิการในการเบิกค่ารักษาพยาบาลของพนักงาน อีกทั้งมีช่องทาง Help Center ในการให้คำแนะนำด้านสุขภาพจากพยาบาลวิชาชีพและสามารถประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจในประเทศอิตาลี ยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยให้บริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่นอกเหนือจากอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจากการทำงาน ซึ่งบริการและโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพดังกล่าวออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพนักงาน รวมทั้งมีการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เช่น 'Safe Zone' การเสวนาเรื่องสุขภาพจิต ส่วนลดสมาชิกฟิตเนส การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม การตรวจสุขภาพผิวหนังโดยโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ตลอดจนการเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลคู่สัญญาประกันสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญกับการเพิ่มมาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้ครอบคลุมคู่ค้าและผู้รับเหมาอีกด้วย โดยมุ่งมั่นที่จะลดความเสี่ยงและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ความมุ่งมั่นนี้แสดงให้เห็นได้จากการปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของเซ็นทรัล รีเทล อย่างเคร่งครัด รวมถึงข้อกำหนดสำหรับคู่ค้าและผู้รับเหมาที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสม อีกทั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในสถานประกอบการควบคู่กับความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้พัฒนาระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่องตามแนวทางดังต่อไปนี้
- ติดตามประกาศกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และประกาศแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อนำมาปรับใช้
- เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาความปลอดภัยในสถานประกอบการ
- ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการกำกับดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
- ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องตามกฎระเบียบที่มีการเปลี่ยนแปลงและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
โครงการสำคัญ
การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยและเหตุฉุกเฉิน
เซ็นทรัล รีเทล จัดให้มีการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยและเหตุฉุกเฉินแก่พนักงานใหม่และพนักงานปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการทำงานทั้งของพนักงาน ผู้รับเหมา และลูกค้า
โครงการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR & AED) ให้แก่พนักงานที่ทำงานภายในห้างสรรพสินค้า การฝึกอบรมนี้จะช่วยให้พนักงานมีความคุ้นเคยกับขั้นตอนในการปฐมพยาบาล และการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญในการช่วยชีวิตผู้อื่นจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยในปี 2566 ได้จัดอบรมให้กับพนักงานที่ทำงานในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน จำนวน 1,400 คน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น ให้กับพนักงานทุกหน่วยธุรกิจและศูนย์กระจายสินค้า เพื่อให้พนักงานเข้าใจและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์เพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้ พนักงานจะได้เรียนรู้การใช้ถังดับเพลิง การฝึกซ้อมอพยพ และวิธีช่วยเหลือผู้อื่น
เซ็นทรัล รีเทล ยังตระหนักถึงเหตุการณ์กราดยิงซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง จึงได้จัดให้มีการฝึกซ้อมรับมือกับเหตุกราดยิงแบบเชิงรุก เพื่อให้ความรู้แก่พนักงานในห้างสรรพสินค้า เกี่ยวกับแนวทางในการสื่อสารและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยต่อทั้งพนักงานและลูกค้า โดยพนักงานจะได้รับการประเมินและต้องมีคะแนนขั้นต่ำร้อยละ 80 จึงจะผ่านการฝึกอบรม