การจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ
แนวทางการจัดหาสินค้าของเซ็นทรัล รีเทล เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของสินค้าและบริการที่เสนอให้แก่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มความคาดหวังของผู้บริโภคที่ใส่ใจและให้ความสำคัญต่อการจัดหาสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบที่เพิ่มสูงขึ้น เซ็นทรัล รีเทล จึงมุ่งมั่นให้แนวทางปฏิบัติในการจัดหาสินค้าและบริการครอบคลุมปัจจัยต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนความยั่งยืนในกระบวนการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของเซ็นทรัล รีเทล ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเซ็นทรัล รีเทล จะสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคและสร้างคุณค่าให้แก่สิ่งแวดล้อม ชุมชน ลูกค้า และองค์กรได้มากยิ่งขึ้น
เป้าหมาย
ผลกระทบต่อธุรกิจ ผู้มีส่วนได้เสีย และสิทธิมนุษยชน
เซ็นทรัล รีเทล ได้มีการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบแก่ลูกค้า เช่น ข้อมูลผู้ผลิต ข้อมูลโภชนาการ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสากล แนวทางปฏิบัติดังกล่าวช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านการละเมิดกฎระเบียบและการถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานรัฐ ส่งเสริมการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบและดีต่อสุขภาพของลูกค้า ตลอดจนเสริมสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของเซ็นทรัล รีเทล นอกจากนี้ การคัดเลือกสินค้าที่ได้รับรองฉลากมาตรฐานด้านความยั่งยืนยังช่วยยกระดับคุณภาพในการจัดหาสินค้าของเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งจะส่งผลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันและการเติบโตทางธุรกิจ
แนวทางการบริหารจัดการ
เซ็นทรัล รีเทล ยึดจรรยาบรรณคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) เป็นกรอบในการกำกับดูแลด้านการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ โดยในจรรยาบรรณคู่ค้ามีการกำหนดเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเพื่อใช้ในการคัดกรองคู่ค้าที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืนสูง นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้มีการประเมินความเสี่ยงและสร้างความร่วมมือกับคู่ค้าเพื่อขยายขอบเขตในการจัดหาสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบ ผ่านการให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและจัดอบรมสร้างเสริมศักยภาพให้แก่คู่ค้า นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น เนื่องจากชุมชนมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคม และต้องการการสนับสนุนจากเซ็นทรัล รีเทล การให้ความรู้คู่ค้าและชุมชนท้องถิ่นเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมมลพิษ และส่งเสริมประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรจะช่วยให้สินค้าจากคู่ค้าและชุมชนท้องถิ่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่การให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และวนเกษตรจะช่วยปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้ผลิตยังได้ประโยชน์จากลดการสัมผัสสารเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชให้น้อยที่สุด ส่วนลูกค้าจะได้รับสินค้าคุณภาพสูงที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งคู่ค้าและชุมชนท้องถิ่นจะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการขายสินค้ามูลค่าสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
กระบวนการจัดหาสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบ
นอกเหนือจากการดูแลให้คู่ค้าและชุมชนผลิตสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบแล้ว เซ็นทรัล รีเทล ได้สื่อสารถึงสินค้าดังกล่าวผ่านกลไกการแสดงฉลากด้านความยั่งยืนและการจัดหมวดหมู่สินค้าด้านความยั่งยืน โดยเซ็นทรัล รีเทล จัดหาสินค้าที่มีฉลากสิ่งแวดล้อมที่รับรองกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีตัวอย่างฉลาก ดังนี้
การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
การสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจของชุมชน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
สำหรับสินค้าในกลุ่มอาหาร เซ็นทรัล รีเทล จัดทำมาตรฐานสินค้าด้านอาหารขั้นสูงสุด “หัวใจคุณภาพ” (Quality at Heart) ซึ่งเป็นโปรแกรมตรวจสอบย้อนกลับที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยผู้ตรวจสอบจากภายนอก (Third-party) โดยมีการตรวจสอบในด้าน 1) ความปลอดภัย 2) คุณภาพ 3) การพัฒนาอย่างยั่งยืน 4) ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 5) ราคาที่ยุติธรรม โดยสินค้าในโครงการจะมี QR code ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าสแกนเรียกดูข้อมูลสถานที่ผลิตและบรรจุสินค้าได้ การเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสจะช่วยให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพและข้อมูลของผลิตภัณฑ์มากขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเซ็นทรัล รีเทล ในด้านจัดหาสินค้าอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้มีการจัดหมวดสินค้าภายใต้ชื่อ “Healthiful” ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อสนับสนุนสินค้าอินทรีย์และสินค้าเพื่อสุขภาพอื่น ๆ โดยสินค้าในหมวด Healthiful ได้ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้:
- ใบรับรองคุณภาพโดยองค์การอาหารและยา ซึ่งช่วยรับรองคุณภาพการผลิต
- มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสร้างเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค
- เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือก อาทิ สินค้าอินทรีย์ สินค้าที่ใช้ส่วนผสมจากพืชเป็นหลัก สินค้ามังสวิรัติ สินค้าช่วยดูแลระบบย่อยอาหาร สินค้าโปรตีนสูง และสินค้าอาหารคีโตเจนิค
- เป็นสินค้าสำหรับผู้มีข้อจำกัดทางสุขภาพ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้บริโภคที่ต้องการบริโภคอาหารที่ปราศจากกลูเตน ผงชูรส วัตถุุกันเสีย คอเลสเตอรอล นมเนย หรือแล็กโทส รวมถึงผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีระดับโซเดียม ไขมัน หรือนํ้าตาลน้อยด้วย
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้ก่อตั้งตลาดจริงใจตั้งแต่ปี 2561 เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับรองรับสินค้าท้องถิ่นของชุมชนในห้างสรรพสินค้าของเซ็นทรัล รีเทล ตลาดจริงใจจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นหลากหลายประเภท รวมถึงสินค้า OTOP และสินค้าที่ท้องถิ่นพัฒนาร่วมกับเซ็นทรัล รีเทล นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังสนับสนุนให้ชุมชนและเกษตรกรเข้ามาร่วมขายสินค้าในตลาดจริงใจด้วยตนเองเพื่อเพิ่มโอกาสในการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรง ถือเป็นช่องทางให้ได้ส่งต่อเรื่องราวของสินค้าและชุมชน รวมทั้งเกษตรกรยังสามารถการันตีคุณภาพสินค้าและการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล มีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่องและจัดให้มีช่องทางการสื่อสารผ่านสายด่วน 1467 เพื่อให้ลูกค้าสอบถามเกี่ยวกับสินค้าหรือแจ้งข้อร้องเรียน สำหรับการร้องเรียน เซ็นทรัล รีเทล จะตรวจสอบปัญหาและประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนที่พิสูจน์ได้
จริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต
การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
เซ็นทรัล รีเทล ตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงความจำเป็นในการดูแลระบบนิเวศ จึงประกาศความมุ่งมั่นในการอนุุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและพื้นที่่ป่า พร้อมตั้งเป้าหมายลดความสูญเสียด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (No Net Loss) สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อระบบนิเวศ (Net Positive Impact) และบรรลุเป้าหมายการสูญเสียป่าไม้สุทธิเป็นศูนย์ (No Net Deforestation) เซ็นทรัล รีเทล ประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ติดตามผล และจัดกิจกรรมเยียวยา ผ่านความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญ รวมทั้งคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากภายนอก การประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ครอบคลุมการพึ่งพาและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบในพื้นที่ที่มีลำดับความสำคัญตลอดห่วงโซ่คุณค่า ผ่านการประเมินด้วย the World Wildlife Fund’s Biodiversity Risk Filter Tool (WWF BRF) ขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพโดยความร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก เช่น องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) มูลนิธิพัฒนาเกษตรอินทรีย์ไทย และไทยคม จำกัด (มหาชน)
การประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ | |
---|---|
กำหนดขอบเขตการประเมิน |
|
รวบรวมข้อมูลตำแหน่งพื้นที่และข้อมูลห่วงโซ่อุปทาน |
|
ประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ |
|
รวบรวมข้อมูลความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่ส่งผลต่อเซ็นทรัล รีเทล |
|
โครงการสำคัญ
โครงการแม่แจ่ม
เซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) มูลนิธิพัฒนาเกษตรอินทรีย์ไทย เซ็นทรัล รีเทล ไทยคม จำกัด (มหาชน) กรมป่าไม้ และหน่วยงานรัฐในระดับท้องถิ่น จัดทำโครงการเพื่อชุมชนในการฟื้นฟูระบบนิเวศผ่านการพัฒนาระบบผลิตอาหารที่ยั่งยืนในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2561 ภายใต้โครงการดังกล่าว ชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์ของแม่แจ่มอยู่ร่วมกับธรรมชาติผ่านการผลิตอาหารด้วยวิธีที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เซ็นทรัล รีเทล ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนชุมชนดังกล่าวในรูปแบบเสริมสร้างศักยภาพเพื่อช่วยให้ชาวบ้านเปลี่ยนจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวมาเป็นการทำเกษตรยั่งยืน ช่วยเพิ่มคุณภาพดินและนํ้าในพื้นที่ และช่วยฟื้นฟูป่า รวมทั้ง เซ็นทรัล รีเทล ได้ทำการตลาดสนับสนุนสินค้าจากชุมชนที่จัดจำหน่ายผ่านเซ็นทรัล รีเทล อีกด้วย
Central/Robinson Love the Earth 2023
เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าภารกิจปลูกป่า 50,000 ไร่ (80 ล้าน ตร.ม.) ภายในปี 2573 โดยเซ็นทรัล รีเทล ฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น บนพื้นที่ประมาณ 490 ไร่ (784,000 ตร.ม.) ตามแนวทางใช้วิธีทางธรรมชาติในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ โครงการนี้ยังสร้างความตระหนักรู้และการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่คู่ค้าและองค์กรในท้องถิ่น เช่น มลพิษจากการผลิต ขยะจากบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
เซ็นทรัล รีเทล ได้จัดกิจกรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน ในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 ภายใต้แคมเปญ “Central/Robinson Love the Earth 2023” โดยมีการเสวนาเรื่องความยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างแบรนด์ เวิร์กช็อป DIY และกิจกรรมต่าง ๆ จัดขึ้นภายในงานด้วย ผลจากแคมเปญนี้จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น ซึ่งจะเทียบเท่ากับการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 466 เมตริกตันต่อปี
ร้าน Everyday Everywhere ส่งเสริมการพัฒนาวิสาหกิจท้องถิ่นขนาดกลางและขนาดย่อม
เซ็นทรัล รีเทล สนับสนุนวิสาหกิจท้องถิ่นขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ โดยจัดสรรพื้นที่เฉพาะภายใต้ชื่อ “ร้าน Everyday Everywhere Shop” ให้แก่วิสาหกิจดังกล่าว โดยในปี 2566 มีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม เชียงใหม่ เพชรบุรี และสงขลา นำสินค้ามาจำหน่ายในร้านแล้ว 9 แห่ง ใน 2 สาขา ตั้งอยู่ที่โรบินสัน ราชพฤกษ์ และโรบินสัน ฉลอง
การตกแต่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
เซ็นทรัล รีเทล ร่วมมือกับ LaRocca แบรนด์แฟชั่นอัปไซเคิลในกรุงเทพฯ สร้างสรรค์งานศิลปะจัดวางเพื่อตกแต่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเมกาบางนา ด้วยถุงผ้าใบมือสองกว่า 1,600 ใบ โครงการนี้ช่วยมอบประสบการณ์การชอปปิงที่เหนือกว่า สอดคล้องกับการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และสามารถลดของเสียได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทลยังได้ร่วมกับชุมชนหุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี จัดแสดงผลงานประติมากรรมจากเส้นใยรีไซเคิล ณ สาขาเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และเซ็นทรัล รีเทล ยังได้ร่วมมือกับ CTRL+R Collective เพื่อจัดแสดงนิทรรศการป๊อปอัพเกี่ยวกับวัสดุหมุนเวียน วัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และวัสดุรีไซเคิลได้ ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าชมได้สำรวจความเป็นไปได้ของความยั่งยืนในภาคการค้าปลีก